อึดอัดระดับสิบ กูทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว!
ผมรวบช้อนกับส้อมเข้าด้วยกันเป็นเชิงว่ามื้อนี้กูขอยุติการแดกแต่เพียงเท่านี้
ไม่มีอารมณ์จะแดกห่าอะไรทั้งนั้นแหละครับ
แม้ว่าท้องของผมมันจะร้องโหยหวนประท้วงให้หาอะไรใส่กระเพาะก็ตามเถอะ
“อิ่มแล้วเหรอมาร์ค?”
“อืม” ผมพยักหน้าเบาๆ
น้ำสักหยดกูยังหยิ่งไม่ยอมกินเลยอะคิดดูดินับประสาอะไรกับข้าวในจาน
พี่มาร์คอยากร้องไห้ หิวจะตายห่าแต่ก็ต้องแอ๊บเป็นคนนิ่งขรึม
“เพิ่งกินไปได้นิดเดียวเองนะครับ”
“ไม่ค่อยหิวน่ะ” กูดูเป็นคนสงบปากสงบคำขึ้นมาถนัดตาเลยเนอะ
ไม่ค่อยหิวห่าอะไรท้องนี่ร้องเป็นจังหวะสามช่า ก็บอกแล้วไงว่ากินได้ก็เหี้ยแล้ว
เพราะศัตรูหัวใจมันมาอยู่ตรงหน้ากูเนี่ย!
ไอ้ห่าฮันบิน! ไอ้ข้อศอกหมา! ไอ้ตาปลาหนังตีนกลับ!
มื้อกลางวันมันควรจะเป็นมื้อที่ผมกับแบมแบมได้อยู่กินกันสองต่อสองปราศจากพวกผีเปรตขอส่วนบุญปะวะ? มึงมาจากไหนใครเป็นคนอันเชิญมึงมา? คือกูไม่ต้องการตัวแถมมาร่วมโต๊ะแดกข้าวกับกูไงสัด
วินาทีที่ผมเห็นมันเดินมาพร้อมกับแบมแบมนี่ไม่ได้เวอร์เลยนะครับ
โลกแม่งแทบจะถล่มตรงหน้า หัวเราะต่อกระซิกจนลืมกูนี่เขาคงมีความสุขกันมากสินะ
“มาร์คดูแปลกๆนะ ไม่สบายหรือเปล่า?”
“ไม่หนิ” ผมปั้นยิ้มเป็นธรรมชาติสรรค์สร้างสุดๆส่งไปให้แบมแบมที่ดูท่าจะกินข้าวไม่ลงตามผมไปอีกรายเว้นก็แต่ไอ้ห่าฮันบินที่ยังไม่รู้ร้อนรู้หนาวแดกข้าวในจานไม่สนใจโลก
แหม่มึงไม่รู้ตัวเลยเนอะว่ามีใครบางคนเขารังเกียจมึงอยู่
“อิ่มแล้วเหรอครับ?” คราวนี้แบมแบมหันไปหาไอ้ฮันบินที่รวบช้อนกับส้อมไว้กลางจานบ้าง
แม่งยิ้มปริ่มไม่พอยังมีการหันมายักคิ้วใส่กูด้วย ด้ายยยยย มึงจะเอายังงี้ใช่ไหม
“งั้นเดี๋ยวผมไปซื้อน้ำ มาร์คกับฮันบินคุยกันไปก่อนนะ” แบมแบมลุกออกไปจากโต๊ะทิ้งให้ผมอยู่กับไอ้ห่าฮันบินสองต่อสอง
และแน่นอนว่าผมไม่มีอะไรจะคุยกับมัน และถึงมีกูก็ไม่คุย กูหยิ่ง!
ให้คุยกับแม่งสู้ให้กูไปคุยจุลินทรีย์แลคโตบาซิลลัสในขวดยาคูลท์ไม่ดีกว่าเหรอ?
“ผมคิมฮันบินฝึกสอนชีววิทยา อ้อ ตามมารยาทเนี่ย
นายควรจะแนะนำตัวกลับใช่ไหมนะ?” มันทำลอยหน้าลอยตาเหมือนนึกอะไรอยู่สักอย่าง กวนตีนเหี้ยๆ
“เสียเวลา”
เพราะผมรู้ดีว่ายังไงมันก็ต้องรู้จักผมอย่างแน่นอน
“มาร์คต้วนฝึกสอนหมวดอังกฤษ...
มาจากอเมริกาด้วยเหรอครับ?”
กูเจอคนที่ขี้เสือกกว่าไอ้ซึนยุนละไง ต่อให้กูมาจากรูขี้หรือรูห่าอะไรก็ไม่มีความจำเป็นต้องบอกมึงปะวะ
ไอ้ห่าฮันบินมันนั่งเท้าคางมองผมสลับกับแบมแบมที่ยืนซื้อน้ำอยู่ไม่ไกลก่อนจะยิ้มออกมา
“ชอบเหรอ?”
“เออ” ไม่มีคำว่าลังเลในดิกชันนารี่ของมาร์คต้วนฟรอมแอลเอนะมึงนะ
ตาปลาไอ้แจ็คสันที่ว่าแข็งยังสู้เสียงกูตอนนี้ไม่ได้เลย
อยากต่อยหน้าแม่งสักทีแต่ติดตรงที่ผมอยู่ในภาระหน้าที่ของคนเป็นครู
เทควันโดก็เทควันโดเหอะมาเจอมวยก๊อกแก๊กของกูหน่อยไหม
“ผมก็ชอบนะ เขาน่ารัก”
“เลิกเล่นลิ้นกับกูสักที!”
“ผมก็ไม่ได้อยากจะเล่นกับนายหรอกนะ
ผมอยากเล่นกับแบม....”
สัด! ขึ้นเลย! กูขี้นปรี๊ดเลย!
ขืนแบมแบมมาช้ากว่านี้อีกสักวินาทีแอนตาซิลได้เแจกเข็มละห้าร้อยแน่มึง น้ำท่าไม่ต้องแดกแล้วมั้งมาแดกตีนกูนี่
ผมหงุดหงิด
แน่นอนว่าหงุดหงิดมากเลยไม่ทันได้รู้ตัวว่าแสดงออกทางสีหน้ามากเกินไปหรือเปล่า
“มาร์ค....” แบมแบมจับเข้าที่แขนของผมก่อนจะกระตุกเบาๆ ดวงตาคู่กลมตรงหน้าแลดูกังวล
เออ เบื่อตัวเองที่เป็นคนแบบนี้เหมือนกันนั้นแหละ
“ฉันกลับเข้าโรงเรียนก่อนนะแบม” อยู่ต่อก็มีแต่จะอารมณ์เสีย
แบมแบมดูนิ่งไปแต่ก็ยังยอมพยักหน้าให้ผมอยู่ดี บอกเลยว่ามาร์คไม่ได้คิดไปเองนะครับ
แบมแบมดูหงอยขึ้นไปถนัดตาแต่ผมไม่สงสารเขาหรอกนะ หึ
ถ้าอยากให้ผมอารมณ์ดีๆคราวหน้าก็อย่าเอาไอ้ห่าฮันบินมาสิ
วันนี้มาร์คโกรธและงอนมากด้วย!
ผมรับชีทแผ่นสุดท้ายคืนจากหัวหน้าห้องซีที่ดูท่าจะเกร็งกับลุคนี้ของผมอยู่ไม่น้อย
ก็ใช่น่ะสิปกติผมเป็นคนสอนสนุกเน้นความสบายใจของนักเรียนเป็นหลัก
งานไม่ค่อยสั่งหรอกครับส่วนใหญ่ให้เด็กทำในห้องไปพร้อมๆกัน
แต่วันนี้รู้สึกผิดฉิบหายที่เอาความรู้สึกส่วนตัวมาปนในหน้าที่การงาน
ก็แค่ให้เด็กๆในห้องทำเทสร้อยห้าสิบข้อแบบโหดสัดสหรัฐอเมริกาก็เท่านั้นเอง
ไม่ยากเกินไปหรอกเนอะ
“วันพรุ่งนี้ผมจะติดคะแนนไว้ที่หน้าหมวดภาษาอังกฤษนะครับ
อ่อ ไม่ต้องกลัว เราทดสอบกันเล่นๆ”
“นี่เล่นแล้วเหรอครับ?”
“ใช่ครับ
แต่ถ้าใครได้ต่ำกว่าสิบผมจะนัดสอนเพิ่มตอนเย็น ย้ำว่าทุกเย็น” ไอ้ตอนแรกน่ะผมตอบไอ้เด็กแสบจุนฮเวที่หน้าเหี่ยวเฉาตั้งแต่เห็นจำนวนข้อสอบเมื่อราวๆชั่วโมงก่อน
ใจจริงอยากจะทดสอบตั้งแต่สัปดาห์แรกซะด้วยซ้ำ
เด็กพวกนี้กำลังจะสอบเอ็นทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัยก็ต้องฟิตกันสักหน่อยจริงไหม?
“ครูมาร์คใจร้ายว่ะ”
“เอาน่าจุนฮเว
ยังไงคุณก็ต้องเป็นหนึ่งในคนที่สอบได้ต่ำกว่าสิบอยู่ดี”
“ครูจะดูถูกผมเกินไปแล้วนะ “ ทำเป็นเข้มแต่หน้ามึงนี่หงอยเป็นหมาอดเยไปอีก
ไอ้เด็กนี้มันชอบคุยกับผมนะครับ เป็นไหมที่เรามักจะสนิทกับคุณครูฝึกสอนท่านใดท่านหนึ่งอะ
ผมพูดปิดคลาสเหมือนทุกครั้งก่อนจะเก็บแลปท็อปและเอกสารอีกมายใส่ไว้ในอ้อมแขน
จะพ้นประตูห้องอยู่แล้วเชียวถ้าไม่มีคนมาขวางทางเอาไว้
“มาร์ค...”
มาได้ไงวะ?
“มีสอนต่อเหรอแบม?” ผมเบี่ยงตัวเพื่อเปิดโอกาสให้แบมแบมได้เดินเข้าไปในห้องซีทว่าเจ้าตัวกลับยื่นนิ่งและปล่อยคำถามชวนงงมาให้ผมแทน
“มาร์คเป็นอะไร?”
“หื้อ?”
“โกรธผมใช่ไหม? มาร์คเป็นอะไรก็บอกผมมาสิ” แบมแบมพรั่งพรูคำพูดออกมาเสียมากมายผิดวิสัยคนช่างเงียบแล้วที่ยิ่งกว่านั้นยังส่งสายตาตัดพ้อราวกับว่าน้อยใจผมเสียเต็มประดา
เออ ทำหน้าแบบนี้แล้วโคตรน่ารักเลยรู้ตัวบ้างปะ
สีหน้าที่พูดไปแล้วเหมือนจะร้องไห้เนี่ยแม่งโคตรน่าฟัดให้แก้มช้ำ
ผมจัดปกเสื้อของแบมแบมให้เข้าที่ เนคไทก็เบี้ยวอีก
รีบมากใช่ไหมเนี่ย?
“ทำไมฉันต้องโกรธแบมด้วยล่ะ”
“ก็ตอนกลางวัน...” แบมแบมพูดเสียงค่อยก้มหน้างุดหูนี่แดงแปร๊ด “มาร์คไม่ยอมไปส่งผม
แล้วมาร์คก็กลับเข้าโรงเรียนก่อน”
อ๋อ อย่างนี้เองสินะ
ก็เป็นเรื่องปกติอีกนั้นแหละครับที่หลังจากมื้อกลางวันผมจะต้องเดินจากหน้าโรงเรียนเพื่อไปส่งแบมแบมที่หลังโรงเรียน
“ฉันมีเทสเด็กตอนบ่ายน่ะ”
“แต่...”
“แล้วนั่นอะไรในมือ? ให้ฉันเหรอ?” ผมเบี่ยงประเด็นไปทางถุงเซเว่นในมือของแบมแบมแทน
คนตัวเล็กรีบพยักหน้าครางอือในลำคอก่อนจะตาเบิกกว้าง
แบมแบมดึงข้อมือของผมให้ออกมาจากบานประตูที่มีสายตานับสิบของเด็กห้องซีมองมาอย่างล้อเลียน
กูลืมไปเลยครับว่ายังยืนงงอยู่หน้าห้อง แต่ก็คุ้มนะทีได้เห็นแก้มยุ้ยๆมันขึ้นสีแดงจัดอย่างขัดเขินน่ะ
น่ารักจัง หนูอยากได้!
ตอนนี้เราสองคนมาอยู่ในห้องพักครูหมวดภาษาอังกฤษเป็นที่เรียบร้อยแล้วแหละครับ
ทางโล่งโปร่งสะดวกเพราะมีสอนกันหมด แหนะๆ
อย่าคิดว่าคนอย่างมาร์คจะอัปปรีย์ลากแบมแบมมาทำอะไรในสถานศึกษานะเว้ย(ถึงมาร์คอยากจะทำมากสักแค่ไหนก็ตาม)ในเวลางานกูขอจัญไรแค่ในความคิดก็พอแต่ถ้าเลิกงานเมื่อไหร่...
ลากได้ก็ลาก แดกได้ก็แดก
ผมหมายถึงแดกข้าวกล่องที่แบมแบมซื้อมาให้หรอกน่าอย่าคิดลึกสิไอ้พวกลามกจกเปรต ยี้!
และที่น่าดียินดีและปรีดาคือแบมแบมไม่มีสอนนะครับแต่ที่ถ่อมาถึงตึกหนึ่งเพราะเขากลัวผมจะหิวเลยซื้อข้าวมาให้
แหม่ ช่างเป็นคนดีห่วงใยไอ้มาร์คคนนี้ยิ่งนัก
แม่นางสนใจไปเลี้ยงดูปูเสื่อตบตูดกล่อมพี่มาร์คนอนที่คอนโดไหมครับ? ค่าน้ำค่าไฟไม่ต้องเสียเสียอย่างเดียวคือเสียตัว
“มาร์ค” จู่ๆแบมแบมที่นั่งเงียบอยู่นานก็เรียกชื่อของผมขึ้นมาเสียดื้อๆ
“ว่าไง?”
“คะ.. ครู ครูจิงน่ะ ครูจิงเป็นแฟนกับมาร์คเหรอ? คะ... คือ”
ถ้าจะเอาอีจิงเป็นแฟน
สู้กูเอาจู๋ไปถูเสาไฟมันจะไม่บันเทิงกว่าเหรอวะ?
“พะ... เพื่อนของผมฝากมาถามน่ะ เพื่อนฝากมา” ทำท่าทางเลิกลั่กร้อนรนไม่พอยังหลบตาคู่สนทนาชวนให้รู้ว่ามีพิรุธอีกนะ
แต่ไม่เป็นไรมันน่ารัก พี่มาร์คให้สามผ่านเลยค่ะ
“เพื่อนคนไหนล่ะแบม?” ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆจนปลายจมูกของผมกับแบมแตะกันเบาๆ “บอกฉันได้ไหม?”
“ก็... ก็ เพื่อน อือ แค่เพื่อนคนนึง....”
“งั้นเหรอ?”
“อื้อๆ” พยักหน้ารัวซะเส้นผมกระจายเชื่อก็ได้ว่าแค่เพื่อนคนนึงเขาฝากถามมาไม่ใช่แบมแบมถามเองอะ
ทำไมต้องน่ารักน่าลากมากมายขนาดนี้วะมาร์คไม่เข้าใจเลยจริงๆ
“ไอ้จิงมันไม่ใช่แฟนของฉันหรอกนะ” ให้ฟรีกูยังโกรธเลยอีเหี้ย
แบมแบมเงยหน้าขึ้นมาจากฝ่ามือของตัวเองหลังจากได้ยินคำตอบของผมและประโยคของแถมที่ถูกคัดกรองมาเป็นอย่างดีอีกเช่นเคยว่าแม่งต้องปังและแบมแบมจะต้องแก้มแดงปลั่งด้วยความขวยเขิน
ฮิ
“ไม่ต้องคิดมากหรอกนะ ก็ฉันน่ะ...”
“มองแค่แบมคนเดียวนี่หน่า”
แค่แบมคนเดียว
มองแค่แบมคนเดียว
ฉันมองแค่คนแบมเดียว…
ใครแซะว่ากูเสี่ยวขอให้ฉี่มึงออกมาเป็นสีเขียวเลยคอยดู
ตกเย็นจากที่ต้องแยกย้ายกันกลับบ้านก็ต้องมาซ้อมกีฬาสีแหกห่าที่จะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้
ผมถูกถีบหัวส่งให้ลงวิ่งสามขากับไอ้ห่าซึนยุน ไม่พอนะครับไม่พอ ชักกะเย่อกูก็โดน
เผลอๆตามมาด้วยวิ่งผลัดอีก อีด้อลแรงงานทาสมั้งกูจะฟ้องกระทรวงการคลัง!
“ไอ้มาร์คมึงชักแรงๆดิวะ เอาให้เหมือนเวลามึงชักว่าวอะ”
ก็เหี้ยละ
เสียงฮาครื้นไล่หลังมาอย่างพร้อมเพียงและกูนี่ก็เอียงอายเพราะคนเป็นแสนยังไม่เท่าแบมแบมที่ยืนขำกับพวกมันไปด้วย
ชักว่าวเหี้ยอะไรล่ะครับระดับมาร์คต้วนไม่จำเป็น เรื่องเยๆไม่เคยขาดมือ แต่ก็นะ
ช่วงนี้แม่งขาดจริงอะไรจริงเลยได้แต่มองมือของตัวเองด้วยน้ำตาไหลพรากประดุจน้ำป่าไหลหลาก
ก็ได้แต่หวังว่าสักวันจะมีใครมาช่วยรีดน้ำออกจากตัว….
ขาดแสตมป์อีกแค่สามดวง ใครมีรีบเลยนะครับ
มาร์คอยากรีดน้ำจะแย่ เอ้ย อยากแลกแบมแบมมานอนกอดที่ห้องจะแย่อยู่ล๊าว
“มาร์คไหวไหม?” แบมแบมที่ไม่ได้ลงแข่งอะไรนอกจากกินวิบากเดินเข้ามาดูอาการของผมที่เริ่มจะง่อยเปลี้ยเสียขานั่งแหมะไปกับพื้นหญ้าเหมือนอีลำยองเสียไพ่
แม่งเรียกกูมาซ้อมตั้งแต่บ่ายสามจนตอนนี้จะหกโมงอยู่แล้วมึงก็ยังไม่ให้กูเลิกชัก
ถ้าเปลี่ยนจากเชือกเป็นยัยมาร์คจูเนียร์ของกูล่ะก็ปานนี้ขาดติดมือแล้วมั้งอีหรรม
“ไหว ฉันโอเค” แอ๊บเป็นเหนื่อยเสียงเพลียได้ขนาดนี้
รางวัลโทรทัศน์ทองคำปีหน้าจะไปไหนเสีย
ผมเอียงหน้าไปซบกับไหล่เล็กของคุณครูดีก่อนจะสูดกลิ่นตัวของแบมแบมเข้าปอดไปฟอดใหญ่
หอมมาก...หอมจนอยากจะเอาไปดมที่บ้านคนเดียวไม่อยากเหลือไว้ให้ใครได้กลิ่น เกิดอะไรขึ้นมาละเออ มาร์คอยากรู้นัก
เปลี่ยนมาร์คไปจากเดิม... โอ๊ยโอ๊ย
กูมีพี่เบนชลาทิศเป็นไอโด้ลครับ
อ่านปากของมาร์คนะคะ ไอโด้ล
ผมรู้สึกถึงแรงลมปะทะเข้ากับใบหน้าอยู่หน่อยๆ
แบมแบมกำลังพัดให้อะครับ คนดีจังเลยนะแบมแบมของมาร์คเนี่ยะ
มามะเดี๋ยวให้รางวัลเป็นการหอมแก้มสักทีสองที
“อีดอกทำเป็นไร้เรี่ยวแรง
กูเห็นแม่งวิ่งขึ้นเขาเป็นสิบๆโลไม่มีบ่น
นี่แค่ยืนถือเชือกทำเป็นกล้ามเนื้ออ่อนแรง อีกุหรี่” ปากจัดว่าตุ๊ดนะอีแจ็คสัน
แม่งจะโรแมนติกอยู่แล้วเชียวถ้าไม่เจอแก๊งค์กระเทยควายทลายประตูหลัง
“อีนี่มันร้ายนะคะ งูพิษแท้ๆ” และอีกสารพัดคำอวยพรที่พวกมันจะสาปส่งด้วยความริษยาและตาร้อน
ผมพาแบมแบมไปตรงที่เขาซ้อมกินวิบากก็ปะเข้ากับไอ้ห่าฮันบินราวกับว่านัดกันมา เออๆ
มันนัดกันมาไงเพราะแข่งกินวิบากมันลงเล่นเป็นคู่ๆ สัด บาดหัวใจชายมาร์คเหลือคณา
“ซ้อมเสร็จแล้วไลน์มานะ เดี๋ยวไปส่ง” ผมจงใจพูดเสียงดังให้ได้ยินกันแบบทั่วถึงจะได้รู้กันไปเลยว่าแบมแบมเนี่ยกูฉี่จองเอาไว้แล้วนะ
ไม่ใช่ขี้ๆเดี๋ยวนี้มีพัฒนาไปส่งถึงบ้านแล้วนะครับคุณมึง
ผมโบกมือไล่หลังแบมแบมที่วิ่งดุ๊กๆไปรวมกลุ่มกับคนอื่น
ไม่อยากยืนเฝ้าครับเดี๋ยวของจะขึ้นแล้วลงยากเพราะพี่มาร์คแข็งอึดทนนาน เอิ่ม
กูว่าไม่ใช่ละ นั้นไงไอ้จิงมาพอดียังงี้เราต้องผสมโรง
“มาร์คขาาาาาาาาา”
วิ่งหน้าแป้นแล้นเป็นจานเชิงมาแต่ไกลเชียวมึง
แต่ก่อนที่มันจะมาถึงตัวผมแม่งก็ได้ฤกษ์แกรนด์โอเพนนิ่ง
ไอ้จิงมันหยุดยืนเท้าเอวจิกขาปล่อยปากเซ็กซี่อยู่กลางสนามบอลห่างจากตรงที่พวกผมยืนประมาณสิบเมตร
องค์ผีบ้าลงอีกแล้วไง ประกวดมิสโคเรียอยู่มั้งอีเหี้ย
แล้วอีแจ็คสันนี่ก็รู้งานดีนะรีบทำซาวน์ให้มันในทันที
ทำไมรอบตัวมาร์คมีแต่คนแปลกๆวะ
บางทีมาร์คก็งงนะครับ
“หมายเลข 24 จิงจิง สัดส่วน 34 24 35
รถไถควายธนูส่งเข้าประกวด” สิ้นเสียงไอ้แจ็คสัน
อีจิงจิงอะไรนั่นก็รีบเดินสับขาเป็นวิคตอเรียซีเคร็ทแองเจิ้ลมาแต่ไกลเลยครับ
พวกมึงควรพบหมอนะจะได้ไม่เป็นภาระของคนในสังคม
ผมยืนมองไอ้จิงที่เริ่มหมุนตัวไปมาไม่ประกอบกับจังหวะที่อีแจ็คสันมันสร้างให้อย่างเร้าใจ
เอาเลยมึงตามสบายเลย กูไม่ห้ามด้วยเอาดิ มึงจะหมุนเป็นบัลเล่ต์อะไรก็เรื่องของมึง
“พอได้ยัง?”
“กว่าจะห้ามกูนะอีดอก แทบอ้วก!” ไอ้จิงหยุดหอบแล้วเดินสะเปะสะปะมาจบที่ไหล่ของผม
มึงเล่นหมุนเป็นเฮอร์ริเคนซะขนาดนั้นไม่อ้วกก็เหี้ยแล้วครับ
ผมนี่รองรับน้ำหนักมันไปเต็มๆ ทิ้งหัวไม่พอยังทิ้งตัวกับมือยัวเยี้ยของมันมาด้วย
มึงแหกตาดูรอบข้างด้วยครับว่ามันคือสถานศึกษาไม่ใช่อาบอบนวดจะมานัวเนียกับกูช่วยเกรงใจคนอื่นเขานิดนึง
“แม่รู้ยังว่าแรด?”
“ทำไมคะอีแจ็ค? กูไปแรดบนโหนกหน้าฝั่งไหนของมึงเหรอคะ?” ไอ้จิงสะบัดเสียงใส่ไอ้แจ็คสันทั้งที่มือสองข้างของมันยังลูบไล้อยู่บนหน้าอกของผม
ตามึงนี่ก็ยั่วย้วนกวนส้นตีนกูล่ะเกิน เอาเถอะ
ถือว่าทำบุญทำทานพระเจ้าจะได้เห็นใจให้แบมแบมรับรักในเร็ววัน
ทำบุญกับสัตว์เขาว่าดีนะครับ
“ถ้าไม่ติดว่าเป็นผู้หญิง....”
“ทำไม? มึงจะข่มขืนกูเหรอ? โอเค กูยอม”
“โธ่อีเหี้ย!”
ถ้าไม่รู้ ผมก็จะบอกให้รู้นะครับ
ไอ้แจ็คสันที่ฟาดฟันมาทุกศึกสังเวียนเนี่ยมันมีจุดอ่อนที่เป็นปมในใจมาตั้งแต่สมัยปีหนึ่ง
มันสู้ไอ้จิงไม่ได้เลยครับ... ต่อให้มันงัดหมาออกมาทั้งปากก็สู้ไม่ได้อยู่ดี
ไอ้จิงมันเป็นบุคคลจำพวกไหลไปเรื่อยปานขี้หมูไหลแล้วคนจัญไรมาเจอกัน ด่าไปแม่งก็ไม่สะท้านหรอกสู้กูไปยืนด่าแม่มันเลยดีกว่า
แถมยังตอกกลับได้เจ็บแสบปานเชือดเนื้อเอาเกลือมาทา ทำกับฉันแสนสันต์
เพิ่มความแค้นเลยมา อยากจะฆ่าให้ตาย...
เคยดูไหมครับคมพยาบาทละครช่องเจ็ดที่พี่อั้มภัทรเล่นกับพี่วีรภาพอะแก มาร์คช๊อบชอบ
ถุย! ออกนอกเรื่องอีกแล้ว กลับมาที่ไอ้จิงเหมือนเดิมเนอะ
มันชอบลวมลามผู้ชายด้วยอะครับ... เจอกูไม่ได้เลยต้องวิ่งแท่ดๆเอานอมาชน
เอามือไม้พุ่งเข้ามากอด เป็นผู้หญิงน่ากลัวและน่าเกลียดจนโลกไม่ลืม
อีเจ๊ควอนตุ๊ดหัวโป๊กในคณะที่ว่าแรดยังต้องยอม
“จิง มึงไปทำไรมาวะทำไมหัวโนซะขนาดนั้น?” ไอ้จินยองที่อยู่ในชุดนักกีฬาวิ่งผลัดสีฟ้าแปร๊นเดินเท้าเอวเข้ามากระชากหัวไอ้จิงไปดูใกล้ๆ
เอ่อ มึงช่วยเบาๆก็ได้เนอะ เพื่อนมึงเป็นผู้หญิงนะเว้ย!
“กูเดินชนประตู”
“โง่สัด
หมาหน้าเซเว่นยังมีสมองมากกว่ามึงอีกไม่รู้จะเกิดมาทำไมให้แผ่นดินมันทรุดตัว
ถ้ากูเป็นแม่มึงนะจะขมิบมดลูกให้มึงตายตั้งแต่อยู่ในท้อง”
เดี๋ยวๆ มึงแค้นอะไรมันเปล่าวะ?
“อยากโดนกูฟันแล้วทิ้งใช่ไหมคะ?”
บอกแล้วว่าแม่งน่ากลัว...
แต่ก่อนที่จะไร้สาระไปมากกว่านี้ผมก็กระชากหัวไอ้จิงกลับมาจากน้ำมือของไอ้จินยองและชี้เป้าหมายให้ไอ้จิงได้รู้ตัว
ตรงที่เขาซ้อมกินวิบากนั้นแหละ
กูจะทำบุญไปให้นะมึง
“ฮันบินของเค้า ~” ไอ้จิงตาเป็นประกายมือกุมแก้มของตัวเองปานสาวน้อยแรกแย้มแสนบริสุทธิ์
ภาพลักษณ์มึงตอนนี้อาจจะดูสวยใสไร้เดียงสาแต่ทว่าในสายตาของพวกกูคือบ๊ายบายนะคะอีฮันบิน
ยินดีด้วยที่มึงจะได้เป็นฝั่งเป็นฝา แต่งเมื่อไหร่อย่าลืมร่อนการ์ด
“เดี๋ยวกูมานะคะหนุ่มๆ ไม่ต้องหึงนะคะ พี่จิงรักทุกคน” ว่าแล้วมันก็เดินเฉิดฉายไปหาไอ้ฮันบินที่ยืนอยู่ข้างๆแบมแบม
คนอย่างไอ้จิงมันเดินแบบมนุษย์ธรรมดาไม่เป็นด้วยนะมึง
แม่งวิ่งซิกแซกหลบหลังต้นไม้ต้นโน่นทีต้นนี้ทียังกะหนังอินเดียวิ่งข้ามเขา
ชาตินี่มึงจะถึงตัวไอ้ฮันบินกูไหมถามหน่อย
ผมยืนมองไอ้จิงวิ่งไปพลางส่ายหัวอย่างระอากระทั่งสายตาไปหยุดอยู่ที่ผู้ชายตัวเล็กในชุดกางเกงวอร์มสีดำกับเสื้อฮู้ดสีแดง
ชุดคุ้นมากเหมือนใครคนนั้นผมพึ่งจะเดินไปส่งเขาและเขาคนนั้นก็...
“เมินหน้าหนีมึงเฉยเลยว่ะไอ้มาร์ค”
“....”
“งอนมึงชัวร์
กูเห็นเขามองมึงตั้งแต่ไอ้จิงวิ่งถลาลมมาซบมึงแล้ว”
“กูมีลางว่าเพื่อนของเราจะได้แดกครูสอนศิลปะแล้ววะเฮ้ย”
งอน?
เหมือนวันนั้นไม่มีผิด
วันที่จับฉลากเลือกสีแล้วผมดึงไอ้จิงมาคุยด้วย
แบมแบมเมินหน้าหนีเหมือนตอนนั้นเปี๊ยบ... แล้วยิ่งอีแจ็คสันบอกว่าแบมงอน งอนอะไรวะ? อย่าบอกนะว่างอนไอ้จิงกับผมอะ
ไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเสียใจก่อนดี
กูสงสารตัวเองไปอีก ช่วยงอนกูเพราะอยู่กับคนอื่นจะได้ไหม
หมาตรงป้อมยามลุงจำรวยก็ได้กูจะดีใจมาก นี่ไอ้จิงนะเว้ย ไอ้จิงเมียไอ้แจบอมเลยนะ
โธ่ชีวิตของกูบัดซบยิ่งนักจะถูกเข้าใจผิดทั้งที่พระเจ้ายังดลบันดาลตัวเหี้ยอะไรก็ไม่รู้มาคู่กับกู
แต่ถ้าแบมแบมงอนผมเพราะไอ้จิงจริงๆล่ะก็มันคงเป็นนิมิตรหมายอันดีงามที่พี่มาร์คคนนี้จะได้เมีย
เอ้ย ได้แฟนสิครับพูดจาหยาบควย เอ้ย หยาบคายอีกแล้ว
งานนี้ต้องแต่งเข้าบ้านฝ่ายชายนะครับกูจะไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันติดกันสิบคืนเลยคอยดู
แสตมป์เซเว่นพี่ขาดอีกแค่ดวงเดียวแล้วนะรู้ยัง
กลับไปคอมเมนต์ได้ที่>>http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1291187&chapter=12
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น